โรงเรียนบ้านหนองกระทุ่ม

หมู่ที่ 10 บ้านหนองกระทุ่ม ตำบล หนองโพ อำเภอ โพธาราม จังหวัด ราชบุรี 70120

Mon - Fri: 9:00 - 17:30

032 389404

มาจากเกาะตะรุเตา

 

ขนหัวลุก สวัสดีครับทุกคน  ผมจะมาเล่าประสบการณ์ขนหัวลุกของผมซึ่งเป็นเรื่องเล่าตอนที่แม่ผมยังเด็กมาก  แล้วแม่ผม เล่าเรื่อง ให้ผมฟังอีกที  ซึ่งเป็นเรื่องที่ขนหัวลุกที่สุดตั้งแต่เจอมา  แม่ผมเล่าให้ฟังว่าในตอนนั้นแม่ใช้ชีวิตในบ้านทุ่ง  บ้านสร้างเป็นไม้ทั้งหลัง  ใช้น้ำก็ใช้น้ำฝน  ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง  ต้องใช้ตะเกียงกับเตารีดใส่ถ่านแทนเครื่องใช้ไฟฟ้ายุคนั้น

วันนั้นตาฉุน  ที่เป็นพ่อแท้ๆ ของแม่  แกออกไปทำมาหากินตามปกติแล้วแม่ไปไหนมาไหนกับตาด้วย  เนื่องจากโรงเรียนปิดเทอม  ทำให้มีเวลาว่างที่จะไปไหนมาไหนได้  แม่จะไปช่วยแกผ่าฟืน  เก็บหน่อไม้สดกลับมาบ้านเป็นกระสอบ

แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่มีความสุขตามประสาพ่อลูกที่ได้หากินด้วยกัน  แล้วเรื่องขนหัวลุกก็เกิดขึ้น

ตาฉุนกลับมาที่บ้านหลังจากหาของป่าตัดฟืนแล้ว  จู่ๆ  แกมีอาการร้อนวูบวาบเหมือนไม่สบายเนื้อสบายตัว  ได้ยินเหมือนใครกระซิบเรียกชื่อแกตลอดเวลา  แต่แกหันไปก็ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเลย  ใครจะมาเรียกแกตอนกลางคืน  นอกจากนี้แกเหมือนรู้สึกว่ามีคนหายใจรดต้นคอแกตลอดเวลา

“ฉุน…..ฉุน……”

ตาแกคงคิดว่าหูแว่วแล้วกระมัง  ก็เลยไม่สนใจ  หลังจากนั้นแม่ก็ไม่ได้เห็นอะไรหลังจากนั้นเลยว่าตาเป็นยังไง  แม่ก็ทำอาหารสับหยวกกล้วยเลี้ยงหมู  ก่อนที่จะอาบน้ำ  ตั้งใจจะให้พ่อได้อาบน้ำก่อนแล้วค่อยถึงคิวตัวเอง แต่ว่าหาพ่อตัวเองไม่เจอว่าพ่อไปไหน (พ่อก็ตาฉุนนั่นแหล่ะ)  แม่ก็งงว่าพ่อไปไหน  ปกติพ่อจะอาบน้ำก่อนไม่ใช่หรือ

“พ่อไปไหนนะ…อาบน้ำก่อนก็ได้ เดี๋ยวพ่อมาก็อาบเอง”

แม่ก็อาบน้ำเสร็จ  จนป่านนี้พ่อก็ยังไม่มา  พอแม่ทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วนั้นขนหัวลุกสักพักน้องชายของแม่วิ่งมาหน้าตาตื่นเรียกแม่กันจ้าละหวั่น  แม่บ่นใส่ว่านี่กลางคืนแล้วส่งเสียงดังทำไม  น้องชายของแม่วิ่งมาตามแม่บอกว่าพ่อมีอาการแปลกๆ  ช่วยมาดูพ่อหน่อย  แม่ถามว่าแล้วลุงฉินอยู่ไหนล่ะ

“ลุงฉินไปตามหมอผีแล้วพี่  พี่รีบมากับฉันก่อน”

“แล้วพ่ออยู่ไหนล่ะ”

“พ่ออยู่ตรงโน้นพี่ ตามฉันมาเลยพี่”

แม่กับน้องชายแม่วิ่งตามไปดูตาฉุนด้วยความรีบร้อน  พอไปถึงที่บ้านอีกฟาก  พบว่าพ่อมีอาการหลอน  คลุ้มคลั่ง ขนหัวลุก  กราดเกรี้ยวผิดปกติเหมือนว่ามีใครไม่รู้มาอยู่ในร่างพ่อตัวเอง  จากนั้นลุงฉินที่เป็นพี่ชายพ่อตามหมอผี  ซึ่งเป็นหมอผีประจำหมู่บ้านมาช่วยน้องชายตัวเองที  มันมีอะไรมาสิงก็ไม่รู้  จนหมอผีถามว่ามาจากไหน

“ข้ามาจากตะรุเตา….ข้าหิว…ข้าอยากสูบฝิ่น….ข้าขอฝิ่นหน่อย…”

“ข้าไม่มีฝิ่นให้  แกเป็นใคร  แกมาจากไหน  ทำไมมาสิงลูกตัวเอง  รู้ไหมเขาตกใจกันหมด”

ทุกคนอึ้ง  ปกติตาฉุนแกจะไม่สูบฝิ่น  แกไม่ชอบสูบอะไรเลยแม้แต่สูบยาเส้น  แต่ครั้งนี้ดูออกว่าไม่ใช่ตาฉุน

ต้องเท้าความว่าในยุคนั้นใครที่โดนไปปล่อยที่เกาะ  ส่วนมากมักจะเป็นพวกที่มีอัตราโทษรุนแรง  ไม่ใช่แค่มีนักโทษจากคดีทางการเมืองเพียงอย่างเดียว  แต่ก็มีคดีจากการติดฝิ่นในยุคนั้นด้วย  จะเห็นได้จากตาทวดสินคนที่สิงร่างตาฉุน  แกมีโทษร้ายแรงคือการสูบฝิ่น  แล้วมีฝิ่นไว้ในครอบครองเยอะมาก  แกเลยโดนศาลตัดสินคดีให้ปล่อยเกาะตะรุเตา  แล้วแกไปอยู่เกาะด้วยความยากลำบาก  มีเพียงจดหมายเขียนกลับมาแล้วไม่มีใครได้รับจดหมายฉบับต่อไปอีกเลย

ด้วยการใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความอดอยาก  อยู่อย่างยากลำบากมาตลอด  จะหาอะไรกินก็ไม่ได้  ตาทวดสินแกก็รับโทษอยู่ที่นั่นไปจนสิ้นลมหายใจของแก  ผมให้น้ำหนักไปที่ความอดอยากตามที่แม่เล่าให้ฟัง

“ข้าชื่อสิน  เป็นพ่อไอ้ฉุนมัน  ข้าถูกจับไปปล่อยเกาะเพราะข้าสูบฝิ่น  ค้าฝิ่น  แล้วตำรวจเขาไม่ยอม  ข้าเลยโดนปล่อยที่เกาะ  แล้วข้าก็ตายที่นั่นเพราะความหิวโหย  ไม่ได้กลับมาหาลูกเมียอีกเลย”

พูดไปก็สงสารปู่สินมาก  ที่แกต้องมาสิงร่างลูกชายตัวเองเพราะจิตสุดท้ายของตาสินนึกถึงลูกเมีย  แต่ตัวเองกลับมาไม่ได้  และแกก็ยังไม่รู้ว่าย่าก็สิ้นไปนานแล้วเหมือนกัน  หมอผีถามว่าหิวไหม  อยากกินอะไรไหม  จะได้บอกคนในบ้านทำให้กิน  จะได้ไม่ต้องมาเป็นผีเร่ร่อนร้องขอส่วนบุญแบบนี้  ปู่สินบอกว่าอยากกินก้อยเนื้อ  ลุงฉินเลยทำก้อยเนื้อให้ปู่สินในร่างตาฉุนกินนี่แหล่ะ  พอทำอาหารกับข้าวมาให้เสร็จสรรพ  ปู่สินแกกินข้าวเป็นหม้อๆ  จนทุกคนต้องบอกว่าใจเย็นๆ  เดี๋ยวติดคอ  แต่ด้วยความหิวโหยทำให้ไม่ได้กินอาหารดีๆ แบบนี้อีกเลยตั้งแต่ไปอยู่เกาะ

“เอาล่ะถ้ากินเสร็จแล้วก็อย่ามาสิงใครแบบนี้อีกนะตาสิน  เดี๋ยวลูกแกจะท่าไม่ดีเสียก่อน  ถ้าออกจากร่างลูกตัวเองเมื่อไหร่จะบอกให้เรื่องไปบวชให้แก  แกจะได้เกาะชายผ้าเหลืองด้วย”

“สาธุ….สาธุ…”

พอหมอผีพูดจบ  ปู่สินยกมือสาธุก่อนที่ร่างตาฉุนจะล้มตึงไป  ลุงฉินรีบประคองตาฉุนที่ไม่ได้สติลุกขึ้น  ตาฉุนถามว่าไปเอาหม้อข้าวกับก้อยเนื้อมาจากไหน  ลุงฉินบอกว่าพ่อมาสิงแกอยู่ทำให้ทุกคนขนลุกซู่มาก  ตาฉุนรู้ว่าปู่สินไม่กลับมาหาย่าอีกเลย  จำได้แค่แกถูกตำรวจจับตอนที่ลุงฉินกับตาฉุนยังเล็กมาก  จากนั้นมาก็ไม่ทราบข่าวคราวอะไรเกี่ยวกับปู่สินอีกเลยจนกระทั่งสิ้นบุญย่า  เหมือนความรู้สึกสุดท้ายก่อนตายแกห่วงลูกเมีย  

แต่ไม่รู้ว่าลูกสองคนของแกโตแล้ว  เมียตายไปนานแล้ว  แกเลยมาเข้าสิงเพราะต้องการขอความช่วยเหลือ

หมอผีบอกว่างานนี้ลุงฉินกับตาฉุนต้องบวชแล้วล่ะ  อย่างน้อยบวชเพื่อให้วิญญาณปู่สินได้เกาะชายผ้าเหลือง  ไปสู่สุคติสักที  ดูแล้วแกทรมานมากในโลกวิญญาณ  ทั้งลุงฉินกับตาฉุนแกรับปาก  เพราะอาทิตย์หน้าแกมีฤกษ์บวชพอดี  และจะบวชให้ย่าด้วย  สักพักหมอผีสวดมนต์ตามแบบพุทธคุณสายขาวให้คนในบ้านก่อนจะเดินกลับบ้านไป

หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น  ทั้งตาฉุน  ลุงฉินแกบวชเป็นเวลา 9 วันเพื่ออุทิศให้กับปู่สิน  แม่อนุโมทนาสาธุอย่สงดี  พอเหลือบสายตาหันไปมองทางหน้าต่าง  วิญญาณปู่สินแกมาอนุโมทนา  รับส่วนบุญในสิ่งที่ลูกชายแกบวชให้  จากที่มาแบบซูบผอม  แต่คราวนี้เหมือนอิ่มบุญ  วิญญาณแกดูมีราศีขึ้น  จากนั้นแล้วก็หายไปราวกับหมดความทุกข์

เรื่องราวเหล่านี้เป็นเรื่องราวบางส่วนที่แม่ผมเล่าให้ฟัง  แล้วจะเป็นเรื่องเล่าที่แม่ผมไม่ลืมเลือนเลย  แม้ว่าจะผ่านมานานถึงหกสิบปีแล้วก็ตาม  ผมได้ฟังเองผมยังขนลุกเลย  แม้จะผ่านหลายปีก็ตาม

ผมเชื่อในสิ่งที่แม่เล่า  ว่าชีวิตหลังความตายมันทุกข์ทรมานกว่าที่คิด  ผมไม่รู้ว่านอกจากตาทวดสินแกติดฝิ่น  แกยังมีกรรมติดตามด้วยหรือไม่  อันนี้ผมไม่รู้  แต่เรื่องยาเสพติดมัน  มันเป็นสิ่งที่ใครๆ  เรียกอบายมุข  และฝิ่นถูกพัฒนาเป็นยาเสพติดอื่นๆ  ที่ร้ายแรงอย่างมาก  ไม่ว่าจะเป็นเฮโรอีน  หรือสารเสพติดที่พัฒนาให้ร้ายแรงมากในปัจจุบัน  แกเลยได้รับความทุกข์ทรมานจากโทษยาเสพติดนี่ด้วยกระมัง

ผมขออนุญาตเอาเรื่องตาทวดสินเล่าให้ฟัง…เผื่อจะเป็นเรื่องราวเตือนสติใครหลายคนเรื่องยาเสพติด  ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัย  ยาเสพติดก็ยังไม่ได้หายไปจากประเทศไทยสักที  รวมถึงฝิ่นเช่นกัน

ผมขอจบเรื่องเล่าของผมแต่เพียงเท่านี้เพื่อเป็นการทิ้งท้าย…. บรื๋ออออออออออ