กาเจ้าเล่ห์
หัวหมอ ความเดิมจากตอนที่แล้วหลังจากที่เจ้านกกาโดนตาข่ายเหวี่ยงใส่ จนมันล่วงลงไปนอนนิ่งอยู่บนพื้นโดยมีตาข่ายคลุมตัวมันอยู่ “ตายแล้ว ข้าต้องตายแน่เลย” เจ้านกกาตกใจอย่างสุดขีด และพยายามดิ้นหนีเพื่อจะออกจากตาข่ายให้ได้ และได้ยินเสียงชาวบ้านตะโกนด่ามัน บางคนก็พูดว่าเคยเห็นมันมากินเศษเนื้อทิ้งที่หลังบ้าน “ข้าก็เห็นเหมือนกันแล้วไม่ได้ไล่ด้วยเพราะเห็นว่ามันกินเศษเนื้อที่ทิ้งแล้ว แต่นี่ขโมยเนื้อตากแห้งแถมยังทำให้พวกเราเข้าใจผิดกันอีก” จากนั้นเจ้านกกาก็ถูกชาวบ้านทุบตีแต่มันก็ยังโชคดีที่ดิ้นรนบินหนีจนหลุดออกมาจากตาข่ายได้เจ้านกกาเจ้าเล่ห์รวบรวมแรงที่เหลืออยู่บินหนีออกไปจากหมู่บ้านแห่งนั้นโดยไม่คิดชีวิตจนมาถึงที่ลำธารแห่งหนึ่ง แล้วมันก็ร่วงหล่นอยู่บนโขดหินข้างลำธาร เจ้านกกาค่อยๆ พาร่างอันบอบช้ำ
ลงไปกินน้ำที่ลำธารเพื่อให้ตัวเองได้มีเรี่ยวแรง และมีกำลังมากขึ้น “เจ้าพวกใจร้ายข้าขโมยกินแค่นี้ทำเป็นโกรธเคือง” เจ้านกกาพร่ำบ่นไปเรื่อยในขณะที่กินน้ำจากลำธาร แล้วมันก็ได้พักอยู่ที่ข้างลำธารจนหายเหนื่อย แล้วก็เริ่มบินต่อไปเจ้านกกาบินไปเรื่อยๆ แล้วหากินไปตามภาษาแต่ตลอดเส้นทางที่บินผ่านอยู่นานนับเดือนนั้นก็ไม่มีอาหารอร่อยๆ จำพวกเนื้อให้มันได้กินเลยเจ้านกการู้สึกหิวมาก และโหยหาอยากจะกินเนื้อที่แสนอร่อยจนกระทั่งวันหนึ่งมันได้บินไปถึงแม่น้ำสายใหญ่ และไม่ไกลจากแม่น้ำก็มีหมู่บ้านของชาวประมงอยู่รวมกันหลายหลังเลยทีเดียวเมื่อเจ้านกกาเห็นแบบนั้นมันก็รู้สึกมีความหวังขึ้นมา และคิดว่าที่หมู่บ้านชาวประมงแห่งนี้ จะมีอาหารอร่อยๆ ให้มันได้กิน มันก็เลยรีบบินเข้าไป แต่ไม่นานนักมันก็ต้องรีบบินหนีกลับมายังทิศทางเดิม เพราะได้มีฝูงนกพิราบไล่จิกตีมัน
เจ้านกกาบินหนีไปที่ต้นไม้ใหญ่ และแอบอยู่ในพุ่มไม้นั้น “ออกไปให้พ้นเลยนะเจ้านกกาไม่ดี” “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าไม่ดี” “ก็สันดานนกกาเช่นเจ้าไม่มีคำว่าดีดอกอย่าได้เข้ามาในเขตของพวกข้า” เมื่อนกพิราบขู่นกกาแล้วพวกมันก็บินกลับไปแล้วไปจิกกินเนื้อปลาแห้งที่ชาวประมงคนหนึ่งนำมาเทไว้ให้อย่างเอร็ดอร่อยนกกาที่แอบอยู่ในพุ่มไม้เมื่อได้เห็นภาพนั้นมันก็อยากกินขึ้นมาบ้าง และคิดหาหนทางว่าจะทำอย่างไร ที่มันจะได้มีโอกาสกินเนื้อปลาแห้ง ในทุกๆ วันเจ้านกกาก็จะเห็นชาวประมงคนนั้น นำเนื้อปลาแห้งมาเทไว้ให้กับเหล่านกพิราบได้กินจนอิ่มหน่ำสำราญกันทุกตัวจนวันหนึ่งเจ้านกกาได้คุยกับเจ้านกพิราบตัวหนึ่ง ที่ยอมเจรจากับมันเจ้านกกาเลยได้รู้ว่าชาวประมงใจดีคนนั้น เป็นชาวประมงที่เก่งมาก และหาปลาได้มากมาย แถมเขายังเป็นคน
รักนกอีกด้วยโดยเฉพาะนกพิราบในทุกๆ วันเขาจึงนำเนื้อปลาแห้งมาเทไว้ให้ นกพิราบตัวนั้นยังบอกกับนกกาอีกว่าพวกตนคงจะอยู่ที่นี่กันอีกไม่นานเมื่อนกกาได้ยินแบบนั้น มันก็หูผึ่ง แล้วได้เอ่ยถามเจ้านกพิราบตัวนั้น แล้วพวกเจ้าจะไปไหนกันรึอยู่ที่นี่อาหารการกินก็อุดมสมบูรณ์ดีพวกข้าต้องตามหาฝูงได้ข่าวว่าบินไปทางทิศนู้นแหนะ พอเจ้านกกาได้ยินอย่างนั้นมันก็มีความคิดเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมาในหัวทันที เพราะมันคิดว่าถ้านกพิราบไปจากหมู่บ้านชาวประมงแล้ว แล้วตัวมันเองได้ปักหลักอยู่ที่นี่มันก็คงจะสุขสบาย เจ้าบอกว่าเจ้ากำลังตามหาฝูงอยู่รึตอนที่กำลังบินผ่านมาข้าเห็นฝูงพิราบบินอยู่ทางเขาด้านนู้น “จริงรึงั้นข้าจะรีบไปบอกหัวหน้าของข้า” นกพรายตัวนั้นได้บินไปหาฝูงของมันที่หมู่บ้านชาวประมงเวลาผ่านไปไม่นานนักฝูงนกพิราบทั้งหมดก็ได้บินมาหาเจ้านกกา
และหัวหน้านกพิราบเองก็ไม่ชอบขี้หน้าเจ้านกกาอยู่แล้วจึงสั่งให้เจ้านกกาบินนำทางไป เจ้านกกาพอได้ยินคำสั่งก็รู้สึกเซ็งเพราะมันไม่ได้อยากบินไปด้วยเลย แต่เพื่อให้แผนการได้ดำเนินต่อไปมันก็จำใจต้องบินนำหน้าไปเรื่อยๆ ในระหว่างที่บินนำทางไปอยู่นั้นเจ้านกกาก็คิดไปด้วยตลอดว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้แผนการสำเร็จ มันเลยบินไปที่ภูเขาแห่งหนึ่งแล้วบอกกับหัวหน้านกพิราบ ว่ามันเห็นฝูงนกพิราบที่นี่ตอนที่มันบินผ่านไป “เจ้าโกหกไหนละพี่น้องของข้า” “ข้าไม่ได้โกหก วันที่ข้าบินผ่านไปข้างเห็นจริงๆ นะ” ฝูงนกพิราบเลยตกลงกันที่จะบินตามหาฝูงต่อไปซึ่งสิ่งนั้นก็เข้าทางเจ้านกกา มันเลยขอแยกทาง และทำทีบินจากไปแต่พอบินหายไปจนไม่เห็นฝูงนกพิราบแล้วเจ้านกกาก็บินวนกลับไปที่หมู่บ้านชาวประมง และพอไปถึงมันก็บินตรงไปกินเนื้อปลาแห้งที่ชาวประมงคนนั้นนำมาเททิ้งไว้ และในทุกๆ
วันหลังจากนั้นเจ้านกกาก็เอร็ดอร่อยกับเนื้อปลาแห้งจนมันแทบจะอาเจียนออกมาเพราะมีเนื้อปลามากมายให้มันได้กิน แต่ในวันหนึ่งเจ้านกกาได้แอบเข้าไปในบ้านของชาวประมงคนนั้น และภายในบ้านของชาวประมงก็เต็มไปด้วยปลาแห้งตัวโตๆ ดูน่ากินไปหมดมันเลยคิดจะแอบเข้าไปกินเนื้อปลาแห้งพวกนั้น เมื่อหาช่องทางเข้าไปได้สะดวกแล้วนกกาเจ้าเล่ห์ก็เข้าแอบไปกินปลาแห้งของชาวประมงคนนั้นอยู่เสมอ เพราะเนื้อปลาแห้งถูกเก็บไว้มากมายทำให้เจ้ากาละจิกไล่กินไปทั่ว และไม่เคยกินหมดเลยแม้แต่ตัวเดียวจึงทำให้ปลาแห้งเหล่านั้นมีรอยพรุนไปทั่วเจ้านกกาเจ้าเล่ห์ได้เข้าไปขโมยกินเนื้อปลาแห้งอยู่นานหลายวัน และยิ่งย่ามใจเพราะไม่เคยเห็นชาวประมงคนนั้น เข้าไปป่านเปี่ยนห้องที่เก็บเนื้อปลาแห้งเอาไว้แต่เพราะมันชะล่าใจเลยทำให้ทันถูกจับได้ในวันหนึ่งเมื่อชาวประมงจับเจ้านกกาเจ้าเล่ห์ได้เขาก็จับมันไปขังไว้ในกรงแล้วปล่อยให้มันอดอาหารอยู่นานหลายวันเลยทีเดียวเจ้านกกาถูกขังอยู่อย่างหิวโหยแล้วมันคิดว่าชาวประมงคงไม่ทำร้ายมัน เพราะนกพิราบตัวที่มันคุยด้วยบอกว่าชาวประมงคนนี้เป็นคนดีมาก แต่แล้วทุกสิ่งก็ไม่เป็นอย่างที่นกกาเจ้าเล่ห์คิด ชาวประมงโกรธมากที่มันไปจิกเนื้อปลากินจนเสียหายหมดเพราะเขานั้นได้นำเนื้อปลาบางส่วนไปเทไว้ให้กินแล้ว แต่เจ้านกกากลับไม่กินซ้ำยังมาขโมยกินเนื้อปลาในบ้านของเขาอีกด้วยความโกรธชาวประมงเลยถอนขนเจ้านกกาเจ้าเล่ห์จนหมด และพาตัวมันไปทิ้งไว้ใต้ต้นไม้ “เจ้ามันนกเจ้าเล่ห์เห็นแก่กินไม่รู้จกพอ สมควรแล้วที่จะเป็นนกไร้ขน” พูดจบชาวประมงคนนั้นก็หันหลังเดินจากมาโดยไม่ได้ใส่ใจเจ้านกกาที่นอนไร้เรี่ยวแรงอยู่ที่ใต้ต้นไม้ หัวหมอ
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ขนหัวลุก